สตาร์ทอัพ จัดทัพอย่างไรให้สำเร็จ
- ฐิติกร พูลภัทรชีวิน
- 28 ม.ค.
- ยาว 1 นาที
ปัญหาคลาสสิคที่สตาร์ทอัพต้องเจอ: จากจุดเริ่มต้นสู่การเติบโต
สตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจาก Founder เพียงไม่กี่คน ที่มีไอเดียดีและความมุ่งมั่นสูง ซึ่งในช่วงเริ่มต้นธุรกิจที่มีเพียงแค่กลุ่มเพื่อนไม่กี่คน ก็อาจจะยังไม่เจอปัญหามากนัก แต่เมื่อธุรกิจเริ่มขยายตัว เริ่มมีหุ้นส่วนและพนักงานเพิ่ม ปัญหาด้านการบริหารทีมก็มักจะตามมา เช่น
หุ้นส่วนไม่ลงรอยกัน ต่างคนต่างมองเป้าหมายคนละทิศ ส่งผลให้ทิศทางธุรกิจไม่ชัดเจน
การขยายทีมที่วุ่นวาย จากการเลือกคนที่ไม่เหมาะกับบทบาท ทำให้การทำงานสะดุด
ทีมทำงานไม่มีโครงสร้างที่ชัดเจน ทำให้แต่ละคนรับผิดชอบไม่ตรงกับความถนัด ขาดประสิทธิภาพ
Working Tribes: เครื่องมือจัดทีมให้เป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง – สร้างทีมให้เหมาะกับช่วงการเติบโตของสตาร์ทอัพ
Working Tribes เป็นศาสตร์ด้านการบริหารทีมที่ได้รับแรงบันดาลใจจากการจัดทัพทางการทหาร ผสมผสานกับหลักจิตวิทยาในการวิเคราะห์พฤติกรรมมนุษย์ เพื่อให้แต่ละคนทำงานในบทบาทที่เหมาะสมที่สุด สำหรับสตาร์ทอัพหรือหน่วยธุรกิจใหม่ของบริษัท Working Tribes มีคำแนะนำในการสร้างทีมใหม่ตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นจนถึงช่วงขยับขยาย โดยแบ่งเป็น 4 ทีม บริษัทไม่จำเป็นต้องมีทั้ง 4 ทีมพร้อมกันตั้งแต่เริ่มต้น แต่ควรสร้างทีมตามลำดับความสำคัญให้เหมาะสมกับช่วงการเติบโตของธุรกิจ

1️⃣ ระยะที่ 1: สร้างทีมบุกเบิก (Forerunner) – จุดเริ่มต้นของสตาร์ทอัพ
ช่วงแรกของสตาร์ทอัพคือการสร้างผลิตภัณฑ์ หาตลาด และสร้างโอกาสทางธุรกิจ ทีมบุกเบิกจึงเป็นหัวใจสำคัญขององค์กรในระยะแรก
🦁 Lion Tribe - The General: ผู้นำที่กล้าหาญ มีวิสัยทัศน์ และตัดสินใจเด็ดขาด
🦉 Owl Tribe - The Strategist: นักคิดเชิงกลยุทธ์ที่วางแผนระยะยาวได้อย่างแม่นยำ
⛵ Sailor Tribe - The Explorer: นักสำรวจโอกาสใหม่ ๆ นำไอเดียและเครือข่ายจากภายนอกมาสู่ทีม
📌 Key Success: สร้างทิศทางที่ชัดเจน พร้อมพุ่งไปข้างหน้าเพื่อหาตลาดและโอกาสให้เร็วที่สุด
2️⃣ ระยะที่ 2: สร้างทีมปฏิบัติการ (Execution) – เปลี่ยนไอเดียให้กลายเป็นจริง
เมื่อสตาร์ทอัพเริ่มมีไอเดียและโอกาสที่ชัดเจนแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการสร้างทีมปฏิบัติการ ที่จะเปลี่ยนกลยุทธ์ให้กลายเป็นผลลัพธ์
🌊 Water Tribe - The Politician: นักเจรจาต่อรอง ประสานประโยชน์ให้ทุกฝ่ายร่วมมือกัน
⚔️ Sword Tribe - The Planner: นักวางแผนที่แปลงกลยุทธ์ให้เป็นแผนปฏิบัติที่จับต้องได้
🧑🚒 Warrior Tribe - The Vanguard: กำลังหลักของทีมที่อดทนและไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค
📌 Key Success: นำแผนงานมาปฏิบัติจริง ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคง
3️⃣ ระยะที่ 3: สร้างทีมปกครอง (Governor) – ดูแลคนในองค์กร เมื่อบริษัทเริ่มมีขนาดใหญ่ขึ้น
เมื่อทีมงานเริ่มเยอะขึ้น ก็จำเป็นต้องมีโครงสร้างการบริหารที่ดี ทีมปกครองจะเข้ามาดูแลให้คนในองค์กรทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
🐂 Bull Tribe - The Ruler: ผู้นำที่ดูแลทีม ให้ความมั่นคงและสร้างแรงจูงใจ
🎯 Archer Tribe - The Specialist: ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่ช่วยแก้ปัญหาซับซ้อน
🐺 Wolf Tribe - The Sixth Man: ผู้เล่นสารพัดประโยชน์ที่สามารถเติมเต็มทุกช่องว่างให้ทีม
📌 Key Success: สร้างวัฒนธรรมองค์กร และดูแลให้ทุกคนทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่น
4️⃣ ระยะที่ 4: สร้างทีมวางโครงสร้าง (Structural) – สร้างระบบให้ธุรกิจยั่งยืน
เมื่อองค์กรเติบโตขึ้นไปอีกขั้น ก็ต้องมีการสร้างระบบและกระบวนการทำงานที่ชัดเจน เพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกิจ
⚖️ Scale Tribe - The Rulemaker: ผู้กำหนดกฎระเบียบและสร้างโครงสร้างองค์กรที่มั่นคง
🦌 Deer Tribe - The Communicator: ผู้สื่อสารที่ดี คอยเชื่อมโยงคนในทีมและองค์กร
🐝 Bee Tribe - The Provider: เพื่อนร่วมงานแสนดีที่พร้อมเข้าช่วยเหลืองานเบื้องหลังทุกอย่างตามที่มีคนร้องขอ
📌 Key Success: วางระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้บริษัทสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน
ทำไมต้องใช้ Working Tribes?
✅ ช่วยให้เลือกหุ้นส่วนได้อย่างเหมาะสม – แทนที่จะจับมือกับคนที่ “คิดเหมือนกัน” ให้เลือกคนที่ “เติมเต็มกัน”
✅ ช่วยให้ขยายทีมได้อย่างมีโครงสร้าง – เลือกคนให้เหมาะกับทีม (แตกต่างเพื่อเติมเต็ม) ใช้คนให้เหมาะกับงาน ลดปัญหาความขัดแย้งในทีม
✅ ช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพสูงสุด – ให้แต่ละคนทำในสิ่งที่ถนัดที่สุด เพื่อสร้างผลงานที่ดีที่สุด
สตาร์ทอัพไม่ใช่แค่เรื่องของไอเดียหรือเงินทุน แต่คือ “คน” ที่ทำให้มันสำเร็จได้ ถ้าจัดทีมได้ถูกต้องตั้งแต่ต้น โอกาสที่สตาร์ทอัพของคุณจะเติบโตและประสบความสำเร็จก็มีสูงขึ้น
Comments